นายสมคิด ธรรมสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ สพป.ลำปาง เขต 1 |
นายประเสริฐ ศุภชาติไพบูลย์ ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ สพป.ลำปาง เขต 1 |
กระบวนการพัฒนายกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมีดังนี
กระบวนการบริหาร
-
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง
เขต ๑ และคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้มีการประชุมผู้บริหารโรงเรียนและคณะศึกษานิเทศก์
มอบนโยบายในการดำเนินการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น
-
ผู้บริหารโรงเรียนได้มีการประชุมเครือข่ายฯ
วิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์และจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของกลุ่มเครือข่ายและของโรงเรียน
-
ผู้บริหารโรงเรียนได้ประชุมคณะครูและมอบหมายภารกิจให้ครูผู้สอนได้พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียน
โดยนำสื่อและนวัตกรรมต่างๆ ที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์
-
การประชุมเครือข่ายโรงเรียนร่วมกันกับผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูในสังกัดก่อนเปิดภาคเรียนเพื่อประชุมชี้แจงแนวทางในการดำเนินงานกระบวนการพัฒนายกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น
-
ผู้บริหารโรงเรียนที่รับผิดชอบงานวิชาการของเครือข่ายร่วมกับครูวิชาการโรงเรียนจัดทำแผนการและร่วมกันจัดกิจกรรมค่ายต่างๆ
เพื่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์
กระบวนการนิเทศ
- ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารโรงเรียน
ครู ในการประชุมเครือข่ายและนำเอาผลสัมฤทธิ์ของปีการศึกษาที่ผ่านมาให้
ผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูร่วมกันวิเคราะห์และวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของตนเอง
- นำผลการวิเคราะห์และแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของแต่ละโรงเรียนมาสรุปเป็นแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเครือข่าย
- รอง
ผอ.สพป. ศึกษานิเทศก์ และประธานเครือข่าย
ได้ร่วมกันนิเทศติดตามผลการจัดการศึกษาของทุกโรงเรียนในเครือข่าย ให้การแนะนำ
ปรึกษาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นร่วมกับคณะครูในโรงเรียนแบบกัลยาณมิตร ว่าได้ดำเนินการตามแผนหรือไม่
กระบวนการจัดการเรียนรู้
- ครูวิชาการกลุ่มสาระต่างๆ
ร่วมประชุมสัมมนาวิเคราะห์ผลของ O-NET , NT ปี 53 วางแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเฉพาะกลุ่มสาระหลัก
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (แม่เมาะ)
- การจัดกิจกรรมค่ายต่าง
ๆเช่น ค่ายภาษาอังกฤษ แบ่งเป็นศูนย์ ๕ ศูนย์ คือ ศูนย์โรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ
ศูนย์โรงเรียนวัดนาแขม ประกอบด้วยโรงเรียนเวียงหงส์ล้านนา และโรงเรียนวัดนาแขม
ศูนย์โรงเรียนสบป้าดวิทยา ประกอบด้วย โรงเรียนสบป้าดวิทยา โรงเรียนบ้านสบเติ๋น
ศูนย์โรงเรียนบ้านสบเมาะวิทยา ประกอบด้วยโรงเรียนบ้านสบเมาะวิทยา
โรงเรียนบ้านห้วยรากไม้ ศูนย์โรงเรียนบ้านท่าสี
ประกอบด้วยโรงเรียนบ้านท่าสี โรงเรียนบ้านจำปุย โรงเรียนบ้านแม่ส้าน
- การจัดค่ายกิจกรรมการพัฒนาการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระหลักอย่างเข็ม
เพื่อการสอบ O-NET , NT
- โรงเรียนที่มีปัญหาในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไม่สามารถจัดกิจกรรมได้
มีการเชิญครูที่มีความสามารถไปช่วยเป็นวิทยากรให้
- การพัฒนาสาระการเรียนรู้ภาษาไทยได้นำเอาสือที่มีอยู่ของ
ศน.พิมพ์ใจ นืศาวัฒนานันท์
นำมาปรับและใช้ในการแก้ไขปัญหาและส่งเสริมการเรียนรู้สาระภาษาไทย
- สมาคมพัฒนาแม่เมาะให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของโรงเรียน
เช่น นำผู้บริหาร ครู ไปศึกษาดูงานโรงเรียนที่ประสบผลสำเร็จ
เพื่อได้เรียนรู้และนำมาปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้สูงขึ้น
จากผลการทดสอบ
พบว่า การประเมิน NT แต่ละสาระวิชา
มีผลคะเนนที่ลดลงจำนวน 2 สาระวิชา
ได้แก่ สาระวิชาคณิตศาสตร์ และสาระวิชาวิทยาศาสตร์
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้สูงขึ้น
1.
ในการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบ
ครูควรเน้นให้นักเรียนฝึกทักษะทางภาษาให้มากขึ้น เน้นนักเรียนให้ปฏิบัติจริง และศึกษาจากสถานที่จริง2. ครูมีสื่อการเรียนการสอนให้หลากหลาย
3. มีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย ไม่ใช้ข้อสอบวัดความรู้ความสามารถเด็กเพียงอย่างเดียว
อุปสรรคที่ส่งผลต่อการพัฒนา
1.
ภาระหน้าที่ของครุมาก ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่เต็มที่ โดยเฉพาะงานประชุมและงานอบรมต่างๆ2. งบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ และจัดทำสื่อมีน้อย สื่อเทคโนโลยียังเข้าไม่ถึง
3. ครูผู้สอนจัดการเรียนการสอนตามหนังสือเรียน ไม่ได้สอนตามตัวชี้วัด
4. ครูที่สอน จบไม่ตรงกับวิชาเอกที่สอน
-
วิชาภาษาไทยส่วนใหญ่มีคะแนนเพิ่มขึ้นยกเว้น
โรงเรียนที่มีผลคะแนนลดลง
มีจำนวน 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนแม่ส้าน โรงเรียนแม่ส้านสาขาบ้านกลาง
และโรงเรียนวัดท่าสี
-
วิชาคณิตศาสตร์โรงเรียนที่มีคะแนนเพิ่มขึ้นจำนวน
6 โรงเรียนได้แก่โรงเรียนบ้านสบเติ๋น
โรงเรียนบ้านสบป้าด
โรงเรียนวัดบ้านแขม
โรงเรียนห้วยรากไม้
โรงเรียนเวียงหงส์ล้านนา
และโรงเรียนวัดท่าสี
ส่วนโรงเรียนที่เหลือจำนวน 6 โรงเรียนมีผลคะแนนลดลง- วิชาวิทยาศาสตร์ ส่วนใหญ่มีคะเนนลดลงยกเว้น โรงเรียนที่มีคะแนนเพิ่มขึ้นมีจำนวน 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านสบป้าด โรงเรียนบ้านสบเติ๋น โรงเรียนวัดท่าสี และโรงเรียนวัดบ้านแขม
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้สูงขึ้น
1.
ในการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบ ครูควรเน้นให้นักเรียนฝึกทักษะทางภาษาให้มากขึ้น เน้นนักเรียนให้ปฏิบัติจริง และศึกษาจากสถานที่จริง2. ครูมีสื่อการเรียนการสอนให้หลากหลาย
3. มีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย ไม่ใช้ข้อสอบวัดความรู้ความสามารถเด็กเพียงอย่างเดียว
จากผลการสอบ O-NET ชั้น ป.6
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้สูงขึ้น
1.
มีการจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิผลตามกลยุทธ์
(งบแลกเป้า) ในปี 2554
ทำให้ครูผู้สอนมีแบบฝึกหัดและครุใช้ครบทุกโรงเรียนในกลุ่มเครือข่าย
มีการจัดกิจกรรมเข้าค่ายติวเข้มให้นักเรียนก่อนสอบ
O-NET ทำให้นักเรียนติวเข้มก่อนสอบ2. ครุผู้สอนปรับปรุงเทคนิคการสอนและพัฒนาสื่อการสอนให้ตรงเนื้อหาให้มีความสอดคล้องกับหลักสูตร
3. ครูผู้สอนสอนควรสอนตรงวิชาที่เรียนจบมา
4. นักเรียนมีศักยภาพในการเรียน
5. ครูได้มีการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลการที่จะดำเนินการสอน เพราะนักเรียนแต่ละคนในชั้นเรียน มีความรุ้และความสามารถที่แตกกต่างกัน
6. มีการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้นักเรียนปฏิบัติจริง และมีการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบใช้แบบฝึก ศึกษาจากสถานที่จริง จึงทำให้นักเรียนเกิดความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ และนำนักเรียนไปเรียนรู้ในสถานที่จริง โดยให้ลงมือปฏิบัติได้จริง
7. มีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย ไม่ใช้ข้อสอบวัดความรู้ความสามารถเด็กเพียงอย่างเดียว
8. ให้ความสำคัญในสาระการเรียนการสอนทุกวิชาเท่ากันโดยเพิ่มชั่วโมงเรียน
9. จัดหาสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัยและเร้าใจผู้เรียน
อุปสรรคที่ส่งผลต่อการพัฒนา
1.
ภาระหน้าที่ของครูมาก ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่เต็มที่ โดยเฉพาะงานประชุมและงานอบรมต่างๆ2. งบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ และจัดทำสื่อมีน้อยมีจำกัด สื่อเทคโนโลยียังเข้าไม่ถึงในบางรงเรียน ขาแคลนสื่อการสอน
3. ครูผู้สอนจัดการเรียนการสอนตามหนังสือเรียน ไม่ได้สอนตามตัวชี้วัด
4. การวัดผลประเมินผลของโรงเรียนไม่หลากหลาย ไม่ตรงกับมาตรฐานและตัวชี้วัด
5. ครูบางโรงเรียนไม่จบวิชาเอกโดยตรง
6. เวลาเรียนมีน้อยแต่เนื้อหาสาระในแต่ละสาระมีมาก
-
วิชาภาษาไทยส่วนใหญ่มีคะแนนเพิ่มขึ้นยกเว้น
โรงเรียนที่มีผลคะแนนลดลง
มีจำนวน 1 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนบ้านจำปุย
-
วิชาคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่มีคะแนนเพิ่มขึ้นยกเว้น โรงเรียนที่มีผลคะแนนลดลง
มีจำนวน 1 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนแม่ส้าน- วิชาวิทยาศาสตร์ ส่วนใหญ่มีคะเนนเพิ่มขึ้นยกเว้น โรงเรียนที่มีคะแนนลดลงมีจำนวน 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนแม่ส้านสาขาบ้านกลาง โรงเรียนสบเมาะวิทยา โรงเรียนอนุบาลแม่เมาะ และโรงเรียนสบป้าดวิทยา
- วิชาภาษาอังกฤษมีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกโรงเรียน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้สูงขึ้น
1. มีการจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิผลตามกลยุทธ์ (งบแลกเป้า) ในปี 2554 ทำให้ครูผู้สอนมีแบบฝึกหัดและครุใช้ครบทุกโรงเรียนในกลุ่มเครือข่าย มีการจัดกิจกรรมเข้าค่ายติวเข้มให้นักเรียนก่อนสอบ O-NET ทำให้นักเรียนติวเข้มก่อนสอบ
2. ครูผู้สอนปรับปรุงเทคนิคการสอนและพัฒนาสื่อการสอนให้ตรงเนื้อหาให้มีความสอดคล้องกับหลักสูตร
3. ครูผู้สอนสอนควรสอนตรงวิชาที่เรียนจบมา
4. นักเรียนมีศักยภาพในการเรียน
5. ครูได้มีการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลการที่จะดำเนินการสอน เพราะนักเรียนแต่ละคนในชั้นเรียน มีความรุ้และความสามารถที่แตกกต่างกัน
6. มีการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้นักเรียนปฏิบัติจริง และมีการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบใช้แบบฝึก ศึกษาจากสถานที่จริง จึงทำให้นักเรียนเกิดความสนใจ ใฝ่เรียนรู้
7. มีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย ไม่ใช้ข้อสอบวัดความรู้ความสามารถเด็กเพียงอย่างเดียว
อุปสรรคที่ส่งผลต่อการพัฒนา
1.
ภาระหน้าที่ของครูมาก ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่เต็มที่ โดยเฉพาะงานประชุมและงานอบรมต่างๆ2. งบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ และจัดทำสื่อมีน้อยมีจำกัด สื่อเทคโนโลยียังเข้าไม่ถึงในบางรงเรียน ขาแคลนสื่อการสอน
3. ครูผู้สอนจัดการเรียนการสอนตามหนังสือเรียน ไม่ได้สอนตามตัวชี้วัด
4. การวัดผลประเมินผลของโรงเรียนไม่หลากหลาย ไม่ตรงกับมาตรฐานและตัวชี้วัด
5. ครูบางโรงเรียนไม่จบวิชาเอกโดยตรง
จากผลผลการทดสอบ O-NET ชั้น ม.3
-
วิชาภาษาไทย มีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกโรงเรียน- วิชาคณิตศาสตร์ มีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกโรงเรียน
- วิชาวิทยาศาสตร์ มีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกโรงเรียน
- วิชาภาษาอังกฤษมีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกโรงเรียน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้สูงขึ้น
1. มีการจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิผลตามกลยุทธ์ (งบแลกเป้า) ในปี 2554
ทำให้ครูผู้สอนมีแบบฝึกหัดและครุใช้ครบทุกโรงเรียนในกลุ่มเครือข่าย มีการจัดกิจกรรมเข้าค่ายติวเข้มให้นักเรียนก่อนสอบ
O-NET
ทำให้นักเรียนติวเข้มก่อนสอบ2. ครูผู้สอนปรับปรุงเทคนิคการสอนและพัฒนาสื่อการสอนให้ตรงเนื้อหาให้มีความสอดคล้องกับหลักสูตร
3. ครูผู้สอนสอนควรสอนตรงวิชาที่เรียนจบมา
4. นักเรียนมีศักยภาพในการเรียน
5. ครูได้มีการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคลการที่จะดำเนินการสอน เพราะนักเรียนแต่ละคนในชั้นเรียน มีความรุ้และความสามารถที่แตกกต่างกัน
6. มีการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นให้นักเรียนปฏิบัติจริง และมีการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบใช้แบบฝึก ศึกษาจากสถานที่จริง จึงทำให้นักเรียนเกิดความสนใจ ใฝ่เรียนรู้
7. มีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย ไม่ใช้ข้อสอบวัดความรู้ความสามารถเด็กเพียงอย่างเดียว
อุปสรรคที่ส่งผลต่อการพัฒนา
1.
ภาระหน้าที่ของครูมาก
ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่เต็มที่ โดยเฉพาะงานประชุมและงานอบรมต่างๆ2. งบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ และจัดทำสื่อมีน้อยมีจำกัด สื่อเทคโนโลยียังเข้าไม่ถึงในบางรงเรียน ขาแคลนสื่อการสอน
3. ครูผู้สอนจัดการเรียนการสอนตามหนังสือเรียน ไม่ได้สอนตามตัวชี้วัด
4. การวัดผลประเมินผลของโรงเรียนไม่หลากหลาย ไม่ตรงกับมาตรฐานและตัวชี้วัด
5. นักเรียนมีพื้นฐานความรู้น้อย
6. นักเรียนส่วนใหญ่เป็นเด็กด้อยโอกาส เรียนปานกลาง ความสามารถในการสื่อสารอยู่ในระดับที่ยังไม่น่าพอใจ
- วิชาสังคมศึกษา มีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกโรงเรียน
- วิชาสุขพละ มีคะแนนลดลงทุกโรงเรียน
- วิชาศิลปศึกษามีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกโรงเรียน
- วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยีมีคะแนนเพิ่มขึ้นทุกโรงเรียน
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้สูงขึ้น
1. จัดหาครูที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละสาระการเรียนรู้มาสอนในแต่ละโรงเรียน
2. คณะครูวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อยจากมาตราฐานการเรียนรู้แต่ละสาระแล้วนำมาแก้ไขปรับปรุงและพัฒนา
3. นำนักเรียนไปเรียนรู้ในสถานที่จริง โดยให้ลงมือปฏิบัติได้จริง
4. จัดหาสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัยและเร้าใจผู้เรียน
5. มีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย ไม่ใช้ข้อสอบวัดความรู้ความสามารถเด็กเพียงอย่างเดียว และมีการประเมินตามสภาพจริงในระหว่างเรียนและหลังเรียน
6. ครูผู้สอนปรับปรุงเทคนิคการสอนและพัฒนาสื่อการสอนให้ตรงเนื้อหาให้มีความสอดคล้องกับหลักสูตร
อุปสรรคที่ส่งผลต่อการพัฒนา
1. ภาระหน้าที่ของครูมาก ทำให้การจัดการเรียนการสอนไม่เต็มที่ โดยเฉพาะงานประชุมและงานอบรมต่างๆ
2. งบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์ และจัดทำสื่อมีน้อยมีจำกัด สื่อเทคโนโลยียังเข้าไม่ถึงในบางรงเรียน ขาแคลนสื่อการสอน หนังสือแจกผผู้เรียนไม่ครบ 100 % ไม่เพียงพอกับจำนวนนักเรียน เพราะเนื้อหา หนังสือมีการเปลี่ยนแปลงทุกปีการศึกษา
3. ครูผู้สอนจัดการเรียนการสอนตามหนังสือเรียน ไม่ได้สอนตามตัวชี้วัด
4. การวัดผลประเมินผลของโรงเรียนไม่หลากหลาย ไม่ตรงกับมาตรฐานและตัวชี้วัด
5. ครูบางโรงเรียนไม่จบวิชาเอกโดยตรง
6. เวลาเรียนมีน้อยแต่เนื้อหาสาระในแต่ละสาระมีมากและมีกิจกรรมเสริมหลักสูตรมากเกินไป ทำให้เวลาเรียนไม่เพียงพอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น