นายวรเพชร ชัยวงค์ รองผู้อำนวยการ สพป.ลำปาง เขต 1 |
นายสมดี ศรีแก้ว ศึกษานิเทศก์ สพป.ลำปาง เขต 1 |
ภาษาไทย
สาเหตุของผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น เพราะการเอาใจใส่ในการจัดการเรียนรู้อย่างจริงจัง
ของครูในช่วงชั้นที่ 1 ครูผู้สอนประจำชั้นมีความถนัดในการสอนภาษาไทยและคณิตศาสตร์
สาเหตุของผลสัมฤทธิ์ต่ำลง เพราะบางโรงเรียนขาดความถนัดในการสอน การสอนไม่ต่อเนื่อง และไม่มีห้องวิทยาศาสตร์หรือมีแต่นานๆ
ใช้ ครูไม่มีความถนัดในการสอนวิทยาศาสตร์
แนวทางแก้ไข/พัฒนาในปีการศึกษา 2555 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการสืบค้น
ค้นคว้าและรายงาน
คณิตศาสตร์
สาเหตุของผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น เพราะโรงเรียนที่ผู้บริหารและครุผู้สอนมีความตระหนักและความพยายามพัฒนา
โดยดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานอย่างจริงจัง
สาเหตุของผลสัมฤทธิ์ต่ำลง เพราะขาดทักษะการคิดคำนวณ การคิดวิเคราะห์
แนวทางแก้ไข/พัฒนาในปีการศึกษา 2555 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการ
เน้นการคิดวิเคราะห์ ปูพื้นฐานด้านการคำนวณ
วิทยาศาสตร์
สาเหตุของผลสัมฤทธิ์สูงขึ้น เพราะผู้บริหารและครูมีความตระหนักและพยายามอย่างจริงจัง
มีการสอนซ่อมเสริม มีแผนงาน/โครงการรองรับ และมีการปฏิบัติ นิเทศ
ติดตามผลอย่างจริงจัง
สาเหตุของผลสัมฤทธิ์ต่ำลง
ครูสอนไม่ตรงตามสาระการเรียนรู้
สอนไม่เป็นไปตามลำดับมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
ทำให้กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่าง ๆ มีผลสัมฤทธิ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ อาทิ วิทยาศาสตร์ เพราะนักเรียนขาดความเข้าใจ
เรื่อง ความสัมพันธ์สิ่งแวดล้อมกับสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ขาดทักษะการสืบเสาะ
แสวงหาความรู้ และกลุ่มทักษะภาษาไทย นักเรียนบางส่วนไม่เข้าใจความหมายของคำบางคำ
บางคนใช้ภาษาถิ่น บางคนขาดความกล้าในการแสดงออก
แนวทางแก้ไข/พัฒนาในปีการศึกษา 2555
จัดการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติและการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
เน้นกิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ จิตวิทยาศาสตร์สื่อสาร สำหรับภาษาไทย
เน้นการสอนให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ฝึกความกล้าในการแสดงออก
(ให้ครูสอนตามความถนัดในกลุ่มสาระนั้นๆ)
หรือสอนประจำวิชาและเวียนการสอนตามชั้นทุกชั้น ไม่ควรประจำห้องเดียว สอนทั้ง 8 สาระ
แผนการสอนแบบคละชั้นช่วยได้เป็นอย่างดี ลดภาระการเขียนแผนการสอน
เพียงแต่เตรียมสื่อการสอน การทำแบบฝึกทักษะต่าง ๆ หรือเครื่องมือวัดและประเมินผลเท่านั้น
ผลการทดสอบ O-NET ชั้นม.3
ในปีการศึกษา
2554 มีผลสัมฤทธิ์ เพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่
ยกเว้นกลุ่มสาระการเรียนรู้ สุข/พลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เพิ่มมากที่สุดคือ
กลุ่มสาระศิลป์ สูงขึ้น 26.56 คิดเป็นร้อยละ 177 รองลงมาคือ กลุ่มสาระคณิตศาสตร์ สูงขึ้น 24.40 คิดเป็นร้อยละ
152 .50 กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เพิ่มน้อยที่สุดคือกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
สูงขึ้น 10.63 คิดเป็นร้อยละ 75.93 แต่ในภาพรวมยังมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละต่ำกว่าระดับเขตพื้นที่และระดับประเทศ
ยกเว้นกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และสุข/พลศึกษา
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการยกระดับผลสัมฤทธิ์ให้สูงขึ้น
ทางผู้บริหารและครูผู้สอน มีความตระหนักและพยายามในการพัฒนาผู้เรียน
มีแผนการ/โครงการดำเนินงานรองรับ ครูหาแนววิธีการสอนตามมาตรฐานการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้ ซึ่งเกิดจากการวิเคราะห์ผลปีการศึกษา 2553 ที่มีผลสัมฤทืค่อนข้างต่ำ
ศึกษานิเทศก์ประจำกลุ่มเครือข่าย / ผู้บริหารสถานศึกษา
ได้นิเทศติดตามผลอย่าต่อเนื่องและจริงจัง ทำการวิเคราะห์เด็กเป็นรายบุคคล
เพื่อหาแนวทางแก้ไขและพัฒนา
อุปสรรคที่ส่งผลต่อการพัฒนา
(กรณีที่มีคะแนนต่ำกว่าระดับเขตและระดับประเทศ)
กลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ
(อังกฤษ)
นักเรียนไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมเจ้าของภาษา
นักเรียนขากทักษะในการแสดงความคิดเห็น ทักษะการพูดภาษาต่างประเทศ ไม่มีความคิดรวบยอด
กลุ่มสาระวิทยาศาสตร์
นักเรียนขาดทักษะในการสรุปผลการทดลอง ขาดทักษะในการสืบค้นข้อมูล
ไม่เข้าใจกิจกรรมบางเรื่องก็ไม่ถามครูผู้สอน ไม่นำหลักการไปใช้ในชีวิตประจำวัน
กลุ่มสาระการเรียนรู้กอท.
ขาดความชำนาญในการทำโครงงาน ทางเทคโนโลยี
มีความรู้น้อยในการเขียนดปรแกรมภาษาพื้นฐาน Computer ครูไม่มีความชำนาญการทาง Computer
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย นักเรียนบางคนอ่านเขียนหนังสือไม่คล่อง
ทำให้อ่านวรรณคดี/วรรณกรรม ต่างๆ แล้วจับใจความไม่เป็น
ตีความหรือสาระที่อ่านไม่ได้ ส่วนใหญ่มีพื้นฐานทางหลักภาษาจากระดับประถมศึกษาน้อย
ขอเรียนเชิญทุกท่าน ร่วมแสดงความคิดเห็น โดยพิมพ์ข้อความลงในช่อง "ป้อมความคิดเห็น คลิก "แสดงความคิดเห็นในฐานะ" กรอกข้อมูลส่วนตัว แล้วคลิก "เผยแพร่" ขอบคุณครับ
ตอบลบ